รู้จักครูปอ…

อ่านแล้วจะได้รู้จัก ถ้าอยากจะรู้ใจ…

     พรรณนาประวัติครูปอ โดยย่อ…ย่อแล้วน๊า …จากอาชีพครู สู่ครูมืออาชีพนับ ๑๓ ปี นับตั้งแต่เป็นครู

ครูปอ หรืออาจารย์ปอ…เด็ก ๆ มัธยมฯ จะเรียกอาจารย์ เด็กประถมฯ จะเรียกครู แต่โดยส่วนตัวจะใช้แทนตัวเองว่าครู เพราะดูขลังกว่า

ก่อนก้าวสู่อาชีพครู…เริ่มตั้งแต่เรียนจบมา จริง ๆ ไม่ได้จบเอกครูโดยตรง แต่เรียนมาทางด้านคอมพิวเตอร์ (ระบบสารสนเทศ) ก่อนมาเรียนสารสนเทศที่ราชมงคล คลองหก ก็เรียน ปวช. ปวส. ที่วิทยาเขตบพิตรพิมุข จักรวรรดิ สาขาการเลขานุการ ตอนแรกมาเรียนแบบงง ๆ จะเรียน เทคนิคฯ แถวบ้าน แม่ก็กลัวจะไม่จบ เพราะเห็นตัวอย่างเด็กแถวบ้าน หลาย ๆ คน ประจวบเหมาะกับพี่สาวเรียนจบ ม.๖ พอดี เลยให้เข้ามาเรียนเป็นสาวกรุงเทพฯ ทั้งสองคน มาอยู่กับป้า ป้าเป็นคนพามาสมัครเรียน…ชุดนักเรียนสาวเทคโนฯ หรืออาชีวะฯ อื่น ๆ ที่ กทม. ดีอย่างหนึ่งที่ใส่ชุดเหมือนนักเรียน ม.ปลาย เลยทำให้เราดูไม่เป็นสาวเร็ว เหมือนสาวเทคนิคฯ แถวบ้าน…ดูใส ๆ 555 พอจบ ปวส. ก็คิดว่าจะเรียนอะไรต่อดี เพราะในระดับปริญญาตรีไม่มีวิชาเอกนี้แล้ว ตอนนั้นก็งง ๆ มึน ๆ กับตัวเอง นี่เป็นข้อเสียของคนที่ไม่มีเป้าหมายในชีวิตเหมือนกัน เพราะทำให้เราเปะปะไปเรื่อย ดีที่มีเพื่อนดี ๆ นำทาง ชวนมาสอบเข้าเอกสารสนเทศ ทั้ง ๆ ที่ ฟังชื่อแล้วไม่เห็นจะเป็นคอมพิวเตอร์ตรงไหนเลย แต่เราก็สนใจ เห็นว่าเป็นคอมพิวเตอร์ในอนาคตน่าจะมีความสำคัญ แล้วตัวเองก็ยังไม่เข้าใจ ไม่รู้เรื่องคอมพิวเตอร์เลย เรียนแต่พื้นฐาน วินโดวส์ ดอสในสมัยนั้น วินโดวส์ 3.11 ใช้ยากมากกกกก เมาส์ก็ไม่มีให้ใช้ ต้องจำคีย์ลัด Alt+… , Ctrl+… แต่ในความยากก็มีประโยชน์ที่ทำให้เราเข้าใจได้ลึกซึ้ง และใช้คีย์ลัดต่าง ๆ ได้ดี กว่าเด็กรุ่นใหม่ ๆ อิอิ

อาจจะเกริ่นยาวไปนิดนึง ก็เพื่อให้เห็นแนวทางการดำเนินชีวิตของครูคนนี้ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น จนกระทั่งทำงานเป็นคุณครูในปัจจุบัน

ครูอัตราจ้าง..ตอนเรียนจบมา อาชีพในฝันแน่นอนอยากเป็นสาวออฟฟิศ เป็นเลขานุการ เพราะถนัดงานเอกสาร พิมพ์คล่อง พิมพ์เร็ว (ก็เรียนเลขาฯ ๕ ปี เรียนพิมพ์ดีดเกือบทุกปี ทั้งไทย อังกฤษ พิมพ์คล่องปรื๋อ…มีเทคนิคพิมพ์เร็วจะมาบอก ไว้โพสต์หน้าละกัน จะได้เข้าประเด็นต่อ…) จบใหม่ ๆ ก็ตระเวนหางานที่ กทม. แต่ทำไมงานหายากจัง เรียนคอมฯ ก็ไม่เก่งเขียนโปรแกรม ฐานข้อมูลก็อ่อน แต่ที่ชอบและถนัดก็คือการทำเอกสารคู่มือการใช้งานโปรแกรมต่าง ๆ ชอบทำเว็บฯ ออกแบบงานกราฟิกต่าง ๆ มากกว่า แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้ใช้ประโยชน์ ในที่สุดก็ต้องกลับบ้านเรา …ถึงจะไม่ใช่โครงการบัณฑิตรักถิ่น แต่ก็ลองกลับมาอยู่บ้าน เผื่อจะมีงานอะไรให้ทำบ้าง มีสอบอะไรที่ไหนก็ไปสอบมาหมดละ …อยู่บ้านไม่ถึงเดือน ก็ได้รู้จักกับอาจารย์ที่โรงเรียนสตรีประเสริฐศิลป์ จ.ตราด (อ.วิเชษฐ์ สมัยนั้น ตอนนี้เป็น ผอ. โรงเรียนกีฬาฯ ไปแล้ว …ยินดีด้วยค่า) พอดีครูคอมฯ ย้ายกลับบ้าน ขาดครูคอมฯ ก็เลยชวนให้ไปลองสอนดู แรก ๆ ก็คิดหนัก จะสอนเด็กได้หรอ วิชาชีพครูก็ไม่เรียนมา อาศัยจำบทบาทครูที่เราเคยเรียน แล้วลองคิดในมุมมองของตัวเองตอนเด็ก ๆ ว่า จะสอนอย่างไร อธิบายอย่างไร จะประยุกต์ใช้โปรแกรมในการสร้างชิ้นงานอะไรได้บ้าง ที่จำเป็น ส่วนใหญ่ก็แผ่นพับ นามบัตร ส่วนการเขียนแผนฯ ก็เขียนไม่เป็น รองฯวิชาการช่วยหาแผนการสอนมาให้ อ่านแล้วก็งง ๆ ^^’ เทอมแรกเข้ามาก็สอนแค่โปรแกรมเวิร์ด เพราะใช้คล่องอยู่โปรแกรมเดียว วิชาคอมพิวเตอร์สมัยนั้น ออฟฟิศมาแรงสุด เด็ก ๆ ยังใช้กันไม่ได้ มีแข่งขันอะไรก็จะเป็นโปรแกรมพื้นฐานพวกนี้ เคยลองสอนดอส ก็เกิดปัญหาว่าเด็กใช้คำสั่ง แล้วทำให้เครื่องมีปัญหา…ก็เลยงดไป…จริง ๆ จบมาก็ลงโปรแกรมและฟอร์แมตเครื่องได้เอง …ส่วนโปรแกรมพื้นฐานก็อย่างที่บอก…ปีต่อ ๆ ไปก็พัฒนามาสอนเพาเวอร์พอยท์ ทั้งที่ใช้ไม่คล่อง แต่ก็เหมือนโดนบังคับกลาย ๆ ต้องไปซื้อหนังสือมาอ่าน หัดทำก่อนเด็ก ก่อนสอน คิดชิ้นงานที่จะให้เด็กทำ จากเรื่องใกล้ ๆ ตัว …ระหว่างนั้นก็หัดทำระบบแลนเองที่บ้าน แบบ Peer to Peer เพื่อให้เข้าใจระบบเครือข่ายมากขึ้น หัดประกอบเครื่องเอง โดยได้เพื่อนเก่ง ๆ สมัยเรียนแหล่ะ สงสัยอะไรก็โทรถามเพื่อน ซึ่งเพื่อนเชษฐ์กะเพื่อนหลานก็เป็นกูรูให้เพื่อนปอคนได้ ขอบใจนะจ๊ะเพื่อน จุ๊ฟๆ อิอิ…อีกปี ก็ต้องสอนเอ็กเซล อันนี้ก็ตามเดิม หัดใช้ หัดทำจนเข้าใจ เพื่อใช้สอนเด็ก อันไหนสงสัยก็ถาม …ในเวลาสองสามปีก็ได้เรียนรู้โปรแกรมเพิ่มหลายโปรแกรม ฝึกทักษะเพิ่มเติมที่จำเป็น และชอบ อยากจะเป็น …ต้องขอบคุณอาจารย์ศรศักดิ์อีกคน ที่ให้คำแนะนำ และให้โอกาสให้น้องคนนี้ ได้มีความรู้มากขึ้น เพราะอาจารย์เป็นงานทะเบียนด้วย สอนคณิตฯ ด้วย จริง ๆ อาจารย์เค้าเอกคณิตฯ แต่สนใจคอมพิวเตอร์ เลยได้มาสอนคอมพิวเตอร์ การพิมพ์สูตรต่าง ๆ ในคณิตฯ ก็ได้จากอาจารย์คนนี้แหล่ะ สอนใช้ Equation ทำให้เรารับจ๊อปพิมพ์งานของวิชาคณิตฯ ได้อีกหลายงาน อิอิ…พอปิดเทอมเมื่อไรครูปอเป็นต้องเข้า กทม. หางานใหม่ทุกที แต่ก็พลาดทุทีสิน่า…เพราะปิดเทอมใหญ่ ช่วงซัมเมอร์ก็ไม่ได้เงินเดือน สมัยนั้น ถ้าไม่สมัครอบรมฯ อะไรก็จะว่าง มาก ๆ เงินเก็บที่เก็บไว้ช่วงเปิดเทอม ก็จะหมดเอาช่วงปิดเทอม นี่แหล่ะ ท่องเที่ยวไปกับเพื่อน ๆ บ้าง การเรียนรู้ของครูปอก็ไม่ได้หยุดนิ่งอยู่กับที่ มีอบรมฯ ทำเว็บฯ ที่ ม.ลาดกระบัง ก็สมัครมาอบรมเป็นเดือน แต่เป็นโครงการฟรี เสียแต่ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าอยู่ ค่ากินของเราเองเท่านั้น … อยู่ที่นี่มาหลายปีมีโอกาสได้เข้าร่วมประชุมการจัดทำหลักสูตรฯ สมัยปรับปรุงหลักสูตร ๔๔ ของสาระเทคโนโลยี และพัฒนาตนเองมากมาย …เพื่อนำมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน และฝึกทักษะเพื่อส่งนักเรียนเข้าร่วมแข่งขันทักษะวิชาการ เริ่มมีการแข่งขันทำเว็บไซต์โดยใช้โปรแกรมเว็บอีดิทเตอร์ และ HTML คราวนี้ครูปอก็ได้ใช้ความสามารถ และความชอบส่วนตัวมาแต่เดิมอีกครั้งนึง ได้รางวัลมาหลายรายการ แต่เป็นการแข่งขันในระดับจังหวัด หรือพื้นที่ แต่ก็นั่นแหล่ะ เด็ก ๆ ที่นี่ก็เก่ง และตั้งใจอยู่แล้ว เพราะผู้ปกครองสนับสนุน และสนใจการเรียนของบุตรหลานดี แค่ขยันฝึกซ้อม แล้วก็ฟังคำแนะนำของครูเท่านั้น ก็สามารถทำได้แล้ว…

เรียนรู้วิชาชีพครู… สอนได้สองปี รองฯวิชาการ (ป้าหนู รัตนาภรณ์ คงพลิ้ว) ก็แนะนำให้ไปเรียนวิชาชีพครู ตอนแรก ๆ ก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่คิดไปคิดมา ดีกว่าอยู่เปล่า ๆ แล้วช่วงนั้น กำลังฮิตเรื่องวุฒิครู ใครจะสอนต้องมีวุฒิครู ก็เลยไปเรียนตามกระแส เรียนแบบสบาย ๆ ไม่ได้เครียดมาก ลงทีละวิชา… ๒ ปีก็จบ (หลักสูตรปีเดียว…ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้ซีเรียสอะไร 5555) มีวุฒิครูแล้ว พอมีเปิดสอบบรรจุ ปีแรก ก็ยังหยิ่ง ไม่สนใจจะสอบบรรจุ พออีกสองปีเปิดอีก ก็คิดว่าเราต้องมีอาชีพที่มั่นคงได้แล้ว ทีนี้ก็ตระเวนสมัครสอบบรรจุละสิ ตั้งแต่ภาคตะวันออกที่เปิดสอบ ครูกทม. ยันหนองคายก็ไปมาแล้ว ไปสมัครสอบมาหมด แต่ไม่ได้สักที่ ที่ไม่ได้นี่ไม่ใช่สอบไม่ได้นะ แต่สมัครสอบไม่ได้ เนื่องจากไม่มีวิชาเอกระบุในคุณสมบัติ จึงสมัครไม่ได้ ทำให้เสียโอกาสไปสองปี หลังจากอกหักเราก็ตรวจสอบวุฒิตัวเองว่าตกลงฉันเรียนอะไรมาเนี่ยะ ดูหน่วยกิตวิชาเขียนโปรแกรม ฐานข้อมูล ระบบสารสนเทศมากมาย …นึกอยากจะเปลี่ยนอาชีพ ก็คงจะไม่ทันแล้ว ทำอาชีพครูมาสี่ปี จนไปทางอื่น ไม่เป็นละ… ระหว่างนั้นก็เรียนต่อ ป.โท ไว้ด้วย เพราะแม่ช่วยออกค่าเทอมให้ ก็ครูอัตราจ้างสมัยนั้น เงินเดือน 6,360 แค่พอใช้เท่านั้นแหล่ะ ให้แม่อีกนิดหน่อย ^^’ (อยู่ที่นี่สอนคอมพิวเตอร์ เด็ก ๆ มีความรับผิดชอบมาก สนใจเรียนดี ขยันถาม จะสอนเหนื่อย เพราะเด็กเยอะมาก ห้องนึงสี่สิบกว่าคน …แต่ส่วนใหญ่จะได้เกรด 3-4 ทั้งนั้น เพราะคะแนนเก็บเต็มเหยียด…ยกเว้นห้องศิลป์ก็จะน้อยมาตามศักยภาพเด็ก)

อาจารย์พิเศษสอน…หลังจากคืนถิ่นสอนที่จังหวัดตัวเองอยู่ ๔ ปี พอมีน้องที่เคยมาสอนโรงเรียนเดียวกับเรา โทรมาชวนให้ไปสอนเด็กอาชีวะฯ ที่จันทบุรี วิทยาลัยการอาชีพสอยดาว ของกรมอาชีวฯ ก็เลยตัดสินใจ ยอมจากบ้านมา เผื่อจะมีอะไรดี ๆ …มาสอนที่นี่ก็ชอบมากนะ สอนเด็กโต ระดับ ปวช. ปวส. เด็กก็มีความรับผิดชอบดี พูดง่าย พูดรู้เรื่อง ใส ๆ เพราะไม่ได้อยู่ในเมืองที่เจริญแล้ว ใกล้เขาสอยดาว อุทยานแห่งชาติที่อุดมสมบูรณ์ทีเดียว….แต่ยกเว้นเด็กช่างฯ ที่เราต้องสอนวิชาพื้นฐานคอมพิวเตอร์ก็พวกโปรแกรมออฟฟิศนั่นแหล่ แต่ครูเองก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร เพราะรู้ว่าไม่ใช่ทางของเค้า แค่เรียนให้พอรู้เท่านั้น รับผิดชอบสอนวิชาคอมพิวเตอร์อย่างเดียว แต่เดี๋ยวนี้มีเงินเดือนตลอด แถมเงินนอกเวลาที่สอนเกินอีก อยู่แบบสบาย ๆ …มีส่งนักเรียนเข้าร่วมแข่งขันระดับจังหวัดได้เป็นรางวัลชนะเลิศการสร้างแผ่นพับด้วยโปรแกรมเวิร์ด และได้มีโอกาสเป็นกรรมการตัดสินอีกด้วย…ได้ช่วยน้อง ๆ ในกิจกรรมอื่น ๆ เนื่องจากที่นี่มีแต่ครูอายุน้อย ๆ ไล่เลี่ยกัน ทำงานมีความสุขมาก …แต่มาอยู่ที่นี่ อายุ ๒๖ ก็เป็นพี่เค้าหมดละ…จากที่โรงเรียนก่อนเป็นน้องมาตลอด รู้สึกว่าตัวเองดูแก่ไปเลย 5555 ….อีกสองปีต่อมามีสอบบรรจุก็เริ่มหาซื้อหนังสือเตรียมสอบมาอ่าน สอบรอบแรกที่ กทม. พร้อมกันทั่วประเทศ คราวนี้มีวิชาเอกเราแล้ว เย้เย้..ดีใจสุด ๆ นึกว่าจะไม่มีสิทธิ์สอบบรรจุกับเค้าซะแล้ว ชาตินี้ 5555 มีคนสอบเยอะมาก แต่พอประกาศมีคนสอบได้ไม่กี่คน…ที่นี้อีกปีเลยต้องเปิดสอบอีกรอบ เขตพื้นที่ใครพื้นที่มัน แต่ละจังหวัดจัดสอบเอง ใครจะสอบที่ไหนก็ไปสมัครที่นั่น เราก็กลับมาสมัครที่ตราดบ้านเรา…สอบคราวนี้ไม่ได้ขยันอ่านมากมาย อาศัยความรู้เดิม แล้วก็ทบทวนเรื่องที่ไม่เข้าใจเพิ่มเติมเท่านั้น เช่น ภาพความสัมพันธ์ อนุกรม กฎหมายและระเบียบต่าง ๆ …ใจจริงก็ไม่ได้อยากสอบบรรจุได้ หรือถ้าได้ก็อยากได้ลำดับหลัง ๆ หน่อย จะได้เรียกบรรจุช้า เพราะอยู่ที่นี่มีความสุขดี เด็ก ๆ น่ารัก สนิทกับเด็กที่ปรึกษามาก ๆ กะว่าจะตามเป็นที่ปรึกษาไปจนกระทั่งจบ…พอประกาศผลสอบบรรจุฯ ไม่ทันได้เข้าไปตรวจดูผลเอง เพื่อนรักก็โทรมาบอก ยังแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ว่าจะติดกับเค้า แถมติดในลำดับที่ ๒ ของวิชาเอกคอมฯ ซะด้วย…ทั้งใจหายที่จะต้องจากเด็ก ๆ แถมบรรจุใหม่เงินเดือนก็นิดเดียว (แอบงก 555) แต่เอาเถอะอยู่ใกล้บ้านนี่นะ คงจะดีกว่านี้

ครูประถมฯ… ตอนรู้ผลสอบบรรจุ ก็เริ่มค้นดูตำแหน่งว่างที่จะเลือกบรรจุ เห็นชื่อโรงเรียนแล้วเลือกไม่ถูกเลย เพราะแทบจะไม่รู้จักเลยสักโรงเรียนเดียว เนื่องจากเป็นโรงเรียนประถมฯ เกือบทั้งหมด และอยู่ต่างอำเภอ ตัวเองเป็นคนอำเภอเมือง ที่ไม่ค่อยรู้จักอำเภออื่น ๆ เพราะเรียนจบ ม.๓ ที่โรงเรียนประจำจังหวัด แล้วก็มาเรียนที่ กทม. นั่นแหล่ะ ตอนเป็นครูอัตราจ้างก็สอนมัธยมฯ อยู่แต่ในโรงเรียน เพราะช่วยงานเอกสารวิชาการเป็นส่วนใหญ่…มีชื่อโรงเรียนหนึ่งเห็นแล้วยังอ่านออกเสียงไม่ถูก ทีนี้ก็ต้องอาศัยถามคนอื่น แล้วก็ค้นดูข้อมูลของโรงเรียนจากเว็บไซต์โรงเรียน เป้าหมายของตัวเองก็คือ อยากอยู่โรงเรียนเล็ก ๆ เด็กน้อย ๆ ครูน้อย ๆ ไม่ใช่เพื่อจะได้สอนน้อย ๆ หรือทำงานน้อย ๆ จะได้สบาย แต่ที่อยากอยู่โรงเรียนเล็ก ๆ เพราะจะได้ทำงานเต็มที่ มีโอกาสได้พัฒนาตนเองเต็มที่ เพราะไม่เคยเชื่อว่าตัวเองเก่ง มีอีกหลายเรื่องที่ต้องเรียนรู้เพื่อนำมาใช้สอนและพัฒนาเด็ก ๆ อนาคตของชาติ…เทคนิคแรกเลย ก็คือ ค้นจากชื่อโรงเรียนในอากู๋เรานี่แหล่ะ ฮิตมานานจริง ๆ หาอะไรก็เจอ…ถ้าโรงเรียนไหนมีเว็บฯ ก็แสดงว่าเค้ามีครูคอมฯ แล้ว มีคนรับผิดชอบงานนี้แล้ว ถ้าเราไปบรรจุที่นั่น เราก็จะไม่ได้ทำงานนี้ ซึ่งเป็นงานที่ตั้งใจ…อืม ลืมบอกไป ว่าตอนอยู่ที่สอยดาว ก็ทำเว็บฯ ไว้เหมือนกัน …แล้วก็มาลงตัวที่โรงเรียนเล็ก ๆ โรงเรียนนึง ไม่มีเว็บฯ โรงเรียน แล้วก็อยู่ติดทะเล…เลยเลือกโรงเรียนนี้ …โรงเรียนบ้านตาหนึก แรก ๆ ก็นั่งรถตู้ประจำไปกลับทุกวัน ตอนมาสอนจึงได้รู้ว่า จริง ๆ แล้ว โรงเรียนนี้เค้าก็ดังอยู่เหมือนกัน มีผลงานเยอะ และผ่านการประเมินจาก สมศ.ในยุคแรก ๆ… ผ่านไปหนึ่งเทอม จึงตัดสินใจมาอยู่บ้านพักครู กับเพื่อนครู…อยู่ที่นี่การจัดการเรียนการสอนก็ทำได้ยากหน่อย โดยเฉพาะวิชาคอมพิวเตอร์ เนื่องจากมีไม่กี่เครื่อง ต้องสอนหลายวิชา แต่ก็ได้ประสบการณ์อีกแบบ ทำให้เข้าใจครูประถมฯ ว่าจริง ๆ แล้วไม่ได้ง่ายเลย ที่ครูคนเดียวจะสอนหลาย ๆ วิชา ต้องประจำชั้น (ได้รื้นฟื้นเรื่องการแจกลูกสะกดคำ ในวิชาภาษาไทย ป.๓ วรรณยุกต์ที่เปลี่ยนรูปไป เพราะเป็นเรื่องที่ลืมเลือนไปแล้ว พออ่านคล่องเขียนคล่อง ก็ไม่ต้องสะกดแบบเดิมอีก….ที่นี่ต้องอยู่กับเด็ก ๆ ทั้งวัน ไม่มีชั่วโมงว่างเลย แม้แต่พักกลางวัน ก็ต้องดูแลเด็ก ๆ ที่โรงอาหาร จะออกไปหาอะไรกินข้างนอกก็ไม่ได้ (จริง ๆ แถวนั้น ก็ไม่มีร้านให้ออกไปไหนหรอก 555) แต่ก็สมใจนึกจริง ๆ เพราะไม่มีครูคอมฯ อะไรที่เกี่ยวกับเทคโนฯ ก็ได้ไปอบรมฯ สมัยนั้นมีอบรมฯ เยอะมาก เพราะเริ่มมีการสนับสนุนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ใหม่ ๆ เพิ่มเติม…แต่ทางที่ชอบก็ยังเป็นด้านเว็บฯ และกราฟิก โปรแกรมอื่น ๆ หรือการดูแลระบบก็ไม่ค่อยถนัด…เพื่อนครูที่นี่ก็เก่ง ๆ และขยันมาก ๆ ทำได้ทุกอย่าง ผอ. ก็ใจดีสนับสนุนเต็มที่ ติดแต่เด็กประถมฯ เล็กไปหน่อยไม่ค่อยเหมาะกับวิชาคอมพิวเตอร์ …พอมีเด็กส่งแข่งขันได้บ้าง แต่ก็แค่เข้าร่วมเท่านั้น ผลงานชิ้นโบแดงกลับเป็นการฝึกซ้อมเด็กประกวดร้องเพลงกล่อมเด็ก ของ อบต. คลองใหญ่ ได้ชนะเลิศ เพราะส่วนตัวชอบร้องเพลง…ก็เอาแผ่นซีดีเพลงกล่อมเด็กมาฟัง จดเนื้อร้อง แล้วถอดเนื้อร้องให้เด็ก ให้เด็กมานั่งฟัง ร้องตาม จนจำเนื้อได้ จึงซ้อมร้อง ส่งเข้าประกวด ไม่ได้หวังรางวัลอะไร แค่อยากให้เด็กได้ประสบการณ์ จะบอกเด็ก ๆ เสมอ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน… งานนี้ประสบความสำเร็จ ก็เลยปลื้มใจมาก ๆ ที่ได้ใช้ความสามารถพิเศษให้เกิดประโยชน์อีกครั้ง หุหุ

ครูมัธยมฯ…อยู่โรงเรียนประถมฯ สามปี ก็เลยลองเขียนย้ายเข้าเมืองดู จริง ๆ อยู่ที่เดิมก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง แต่เนื่องจากมีภาระหน้าที่ แล้วก็อยากกลับมาอยู่ใกล้บ้าน ที่ใหม่ก็สืบ ๆ ดูแล้วไม่มีตำแหน่งครูคอมฯ …พอย้ายมาแรก ๆ ก็หนักใจ …เด็กน่ารักเว่อร์ 5555 ตามประสาเด็กผู้ชายนะ เพราะเด็กผู้ชายเยอะมาก เกือบ ๘๐ เปอร์เซ็นต์เลยมั๊ง มีโอกาสได้พัฒนาตัวเองเพิ่มเติมอีก อุปกรณ์เทคโนฯ ต่าง ๆ ก็ค่อนข้างสมบูรณ์ พร้อม การเรียนการสอนสะดวกสบาย แต่ไม่ง่าย…เพราะเน้นวิชาการมากไม่ได้ เหนื่อยกับการอบรมพฤติกรรมซะมากกว่า แต่ก็พอมีเด็กให้ปั้นไปแข่งขันได้บ้าง แม้จะยังไม่ถึงดวงดาว …แต่ก็ให้เด็กได้ประสบการณ์จากข้างนอกโรงเรียนบ้าง …ทั้งยังเป็นการเพิ่มประสบการณ์ครูอีกด้วย จะได้นำมาพัฒนาเด็ก ๆ ได้ถูกทาง…อยู่ที่นี่รับผิดชอบสอนชั้น ม.๑ – ม.๓ วิชาพื้นฐาน และเพิ่มเติม ตรงกับความถนัดและสนใจพอดีคือสอนคอมพิวเตอร์กราฟิก และการสร้างเว็บไซต์ ผู้บริหารก็ให้การสนับสนุนอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นด้านการทำงาน การสอน การพัฒนาตนเอง ขอบคุณ ผอ.ประเวศ และ รองฯกาญจนา (ป้าหน่อย) ค่า

ปี ๒๕๕๓ อบรมการทำอีบุ๊ค จึงนำมาเปิดสอนวิชาเพิ่มเติมในระดับชั้น ม.๒ ปีที่สองส่งนักเรียนเข้าร่วมแข่งขันจนได้เป็นตัวแทนเขตฯ ไปแข่งขันระดับภาค (ได้สองขั้นก็ปีนี้แหล่ะ ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้กับเค้าเลยในชีวิตนี้ ปลื้ม สุด ๆ ไม่ใช่ที่เงินอย่างเดียว แต่เป็นเหมือนขวัญกำลังใจในการทำงานต่อไปด้วย)…ซึ่งในสาขาเทคโนโลยีจะส่งนักเรียนเข้าร่วมแข่งขันหลายรายการ ทุกรายการที่มีความพร้อม ทั้งครูและนักเรียน …ฝึกซ้อมนักเรียนทั้งในคาบว่างช่วงพักกลางวัน หลังเลิกเรียน และวันหยุดเสาร์ อาทิตย์…

ปี ๒๕๕๔ ร่วมกับเพื่อนร่วมงาน ฝึกซ้อมนักเรียนเข้าร่วมแข่งขันการทำอาหารหลายรายการ และได้เป็นตัวแทนไปแข่งขันระดับภาคอีก ๔ รายการ…นับว่าเป็นความร่วมมือจริง ๆ ที่ทำให้ประสบความสำเร็จ เพราะคนเดียวคงไปไม่ได้ไกลขนาดนี้ แม้ตอนแรกจะไม่ได้หวังว่าจะมาถึงระดับภาคฯ แต่ก็พยายามทำให้ดีที่สุด..ขอบคุณหัวหน้ากลุ่มการงานฯ อ.สวรส รอดน้อย และ อ.ธนาภรณ์ ถัดหลาย ทีมงานฝึกซ้อมนักเรียนในการแข่งขันทำอาหารดังกล่าว

ปี ๒๕๕๕  การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง จากโครงการของ สทร. (สำนักเทคโนโลยีและสื่อฯ) ได้จัดอบรมโครงการครูทูปฯ ซึ่งเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ตนเองสนใจ คือการทำคลิปวิดีโอ เพราะปัจจุบันความเจริญก้าวหน้าของเทคโนฯ และอุปกรณ์จำพวกกล้องดิจิตอลต่าง ๆ ราคาถูกลงมาก โปรแกรมตัดต่อก็ทำได้ง่าย จึงสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ โดยส่งคลิปที่ทำเองแบบงู ๆ ปลา ๆ ไม่มีหลัก และทฤษฎีอะไรมากมายนัก พอได้เข้าร่วมโครงการ หลังจากกลับมาจากอบรมฯ ก็นำไปใช้โดยการเปิดเป็นกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ชุมชุมหนังสั้น มีสมาชิกชุมนุมได้ฝึกทำหนังสั้น…หากมีข่าวประกวดหนังสั้น ก็จะส่งเข้าร่วมประกวดอยู่เสมอ…ผลงานภาคภูมิใจคือ โครงการบอกรักพ่อฯ ที่เป็นการประกวดคลิปหนังสั้นเกี่ยวกับในหลวง โดยเป็นการบอกรักพ่อผ่านคลิปวิดีโอสั้น ความยาวไม่เกิน ๓ นาที … โดยมีแนวคิดจากความรู้สึกของปวงชนชาวไทยคนหนึ่ง ที่ครั้งหนึ่งในชีวิต ที่จะได้ชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด … โดยความร่วมมือกับ อ.เครือวัลย์ สังข์สูงเนิน เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้สึก เนื่องจากวัยวุฒิ และคุณวุฒิ เพราะมีรางวัลครูดีการันตีหลายรางวัล และนักเรียนเด็กชายปัณณวุฒิ นุตัน เป็นผู้ตัดต่อคลิปวิดีโอ ส่วนตัวครูปอเองเป็นผู้กำกับ และเขียนบท (ตำแหน่งดูเท่ห์มาก ๆ)  ต้องขอขอบคุณอาจารย์เครือวัลย์ ที่ช่วยถ่ายทอดเรื่องราวได้น่าประทับใจ ทำให้คลิปผ่านเข้ารอบคัดเลือก ๑๖ ทีม…ณ วันนี้ กำลังรอลุ้นผลโหวตอยู่ ระหว่างมาอบรมฯ Social Media ได้รับโทรศัพท์จากช่อง ๕ ให้มาออกรายการเพื่อพูดถึงแนวคิดการทำคลิปวิดีโอชิ้นนี้ ตื่นเต้นมักมั่ก ^____^…ไว้มีข่าวความคืบหน้าจะมาเล่าให้ฟังจ้า ก่อนอื่น อย่าลืมกดโหวต ฟรี นะจ๊ะ…โครงการดี ๆ แบบนี้ รวมใจไทยเป็นหนึ่ง.com จริง ๆ

12 ความเห็น

12 thoughts on “รู้จักครูปอ…

  1. เรื่องของอาจารย์ดีมาก กว่าจะมาเป็นครู ลำบากมาก ต้องศึกษาเรียนรู้ หาประสบการณ์ มากมาย
    และผมของให้อาจารย์สู่ต่อไป ครับ

  2. เรื่องราวของอาจารณ์ มีความลำบากมากมาย มีความน่าสนใจมากๆ ต้องสู้มาจนสำเส็จ ผมขอใหอาจารย์ ทำให้ดีที่สุดน๊คบ สู็ๆๆๆๆ

  3. ชีวิตของอาจารย์ตอนเด็กๆ จะต้องลำบาก เพราะความอดทน ขยัน หมั่นเพียร จึงทำให้อาจารย์ประสบผลสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ ผมก็จะคอยให้กำลังจัยอาจารย์น่ะครับ สู้ สู้ ครับ

  4. ชีวิตคือการดิ้นรน เราต้องสู้ต่อไปครับ สู้ๆนะครับ ผมเป็นกำลังใจให้ 😛

  5. ชีวิตครูซ่ำมากค่ะ ครูเหมือนเป็นตัวอย่างให้เรา เป็นแนวทาง ให้กับเรา ขอบคุณมากค่ หนูจะนำแนวทางที่ได้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ขอให้ครูสอนพวกเราแบบนี้ไปนานๆค่ หนูเป็นกำลังใจให้

ส่งความเห็นที่ porsn1977 ยกเลิกการตอบ